งานประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวคิดการออกแบบระบบ Agri-PV การเลือกชนิดพืช/สัตว์ เพื่อการผลิตพลังงานและอาหาร” วันที่ 24 – 25 เมษายน 2568

1) การลดการแข่งขันในการใช้ที่ดิน: เทคโนโลยี Agri-PV ช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมกับการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ บนพื้นที่เดียวกัน
2) การป้องกันพืชจากความร้อนและภาวะแห้งแล้ง: แผงโซลาร์เซลล์ให้ร่มเงาที่ช่วยป้องกันพืชจากความร้อนและภาวะแห้งแล้ง ลดการใช้น้ำ และเพิ่มการเก็บกักความชื้นในดิน
3) การจัดหาพลังงานทดแทน: เทคโนโลยี Agri-PV จัดหาพลังงานทดแทนให้กับการปฏิบัติการทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่นอกโครงข่ายไฟฟ้าหลัก
4) การสร้างรายได้เพิ่มเติม: เกษตรกรสามารถผลิตและขายไฟฟ้า สร้างรายได้ที่หลากหลายและเสถียรภาพรายได้ในช่วงที่ผลผลิตลด
5) การลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล: เทคโนโลยี Agri-PV ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในการปฏิบัติการเกษตร
6) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า: พรรณพืชใต้แผงโซลาร์เซลล์ช่วยลดอุณหภูมิภายใต้แผง (Cooling effect) ลดการสะสมของความร้อน ทำให้ประสิทธิภาพแผงโซล่าเซลล์ดีขึ้น
7) การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: แผงโซลาร์เซลล์ให้ที่กำบังแก่สัตว์และพลังงานให้กับระบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
8) การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ: การติดตั้ง Agri-PV ช่วยให้มีพื้นที่พืชพรรณธรรมชาติและพื้นที่หากินใต้แผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งช่วยอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

ปัจจุบันเทคโนโลยี Agri-PV ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและถูกติดตั้งในหลายภูมิภาคของโลก อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ ครอบคลุมการใช้งานทางการเกษตรที่หลากหลาย ตั้งแต่การปลูกไม้ดอก พืช ผัก ผลไม้ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ไปจนถึงการใช้พื้นที่สำหรับการเลี้ยงสัตว์ ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีศักยภาพในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบ Agri-PV จึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์