เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่รัฐให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีรูปแบบดำเนินอุตสาหกรรมตามนโยบาย Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG ที่ต้องมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต แม้ว่าที่ผ่านมาการดำเนินงานด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon footprint of organization) และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon footprint of products) ในภาคอุตสาหกรรมไทยเริ่มมีการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงงานที่ดำเนินการยังจัดว่าเป็นสัดส่วนที่น้อย และมักเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพด้านทักษะของคน และงบประมาณดำเนินการ อีกทั้งการดำเนินงานส่วนใหญ่ยังขาดระบบเกิดข้อจำกัดในการนำไปแปรผลหรือนำข้อมูลไปใช้งานในระดับมหภาคของภาครัฐ
โครงการนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบการจัดการชุดข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรเพื่อการเชื่อมต่อกับระบบข้อมูลในระดับสากล ประกอบด้วยมิติคุณภาพ ความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และใช้ในการวิเคราะห์และใช้ข้อมูลชาญฉลาด เพื่อบ่งชี้ศักยภาพด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกของภาคธุรกิจ โดยตั้งเป้าที่จะขยายผลนำระบบการจัดการข้อมูลนี้ไปใช้ในอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC จำนวน 200 แห่ง
นอกจากนี้โครงการยังวางเป้าหมายพัฒนากำลังคนโดยดำเนินการเพิ่มพูนทักษะ/ฝึกทักษะใหม่สำหรับบุคลากรที่ประกอบวิชาชีพอยู่แล้วจำนวน 500 คน ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านคาร์บอนต่ำและเทคโนโลยีด้านไฮโดรเจนที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ทั้งนี้โครงการจะมุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมมีความเข้มข้นของการใช้พลังงานฟอสซิลและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism – CBAM) ของสหภาพยุโรป รวมถึงกลุ่มที่มีศักยภาพด้าน BCG ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และปิโตรเคมี อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมเหล็ก อลูมิเนียม และอุตสาหกรรมอาหารส่งออก
โครงการนี้ดำเนินการร่วมกับศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืนซึ่งตั้งอยู่ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก